10 วิธีเพื่อจัดการกับความเครียดทางอารมณ์
ประเด็นที่สำคัญ
- การค้นหาสาเหตุของความเครียดทางอารมณ์อาจเป็นเรื่องที่ทำได้ยาก
- บางครั้งความเครียดทางอารมณ์อาจทำให้คุณหยุดทำการตัดสินใจได้
คุณมีความรู้สึกผิดปกติหรือไม่ คุณไม่มีสมาธิ และรู้สึกว่าทำงานง่าย ๆ ได้ยากขึ้นหรือไม่ คุณไม่ได้ป่วย แต่คุณรู้สึกเหนื่อย เบื่อ และเศร้าโดยไม่มีสาเหตุหรือไม่ ความคิดเห็นของเพื่อนร่วมงานเข้ามารบกวนจิตใจของคุณมากเกินไปหรือไม่ คุณร้องไห้เมื่อมีใครบางคนชี้ให้เห็นความผิดพลาดโง่ ๆ ของคุณหรือไม่
หากคุณตอบว่าใช่ คุณอาจกำลังทุกข์ทรมานจากสิ่งที่เรียกว่าความเครียดทางอารมณ์! ความเครียดทางอารมณ์อาจฟังดูเป็นเรื่องใหม่สำหรับคุณ แต่พวกเราเกือบทุกคนเผชิญอยู่กับมัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลาที่มีการแข่งขันสูง และสภาพแวดล้อมในการทำงานมีความวุ่นวาย
ความเครียด และสุขภาพ
ร่างกายมนุษย์สามารถตอบสนองต่อสถานการณ์ที่แตกต่างกันได้ ความเครียดเป็นปฏิกิริยาปกติของร่างกายที่ตอบสนองต่อแต่ละสถานการณ์ ร่างกายมนุษย์จำเป็นจะต้องตอบสนองต่อความเครียด เมื่อเราประสบกับการเปลี่ยนแปลง หรือความท้าทายต่าง ๆ ร่างกายของเราจะเกิดการตอบสนองต่อทางร่างกาย และจิตใจ นี่คือตัวอย่างของการตอบสนองต่อความเครียด
ความเครียดช่วยทำให้เราสามารถเผชิญกับสถานการณ์ต่าง ๆ ได้ และช่วยเตรียมความพร้อมสำหรับสถานการณ์ต่าง ๆ เช่น คุณอาจเครียดก่อนนำเสนองานสำคัญในที่ทำงาน และอดหลับอดนอนเพื่อทำให้งานที่จะนำเสนองานแทบจะมีความสมบูรณ์แบบ
ความเครียดบางอย่างเป็นสิ่งที่ดีสำหรับเรา แต่ความเครียดเรื้อรังนั้นเป็นอันตราย และอาจส่งผลต่อ คุณภาพชีวิตของคุณได้ ความเครียดสามารถส่งผลกระทบต่อเราได้หลายอย่าง ความเครียดสามารถทำให้ร่างกายแสดงอาการต่าง ๆ ออกมาได้ เช่น ปวดศีรษะ เจ็บหน้าอก ความดันโลหิตสูง ปัญหาการย่อยอาหาร เป็นต้น
ในทำนองเดียวกัน ความเครียดสามารถก่อให้เกิดอาการทางจิต และอารมณ์ได้ เช่น วิตกกังวล ซึมเศร้า เศร้า และตื่นตระหนก ผู้ที่มีความเครียดเป็นเวลานานมักหันไปพึ่งพฤติกรรมที่ไม่ดีต่อสุขภาพ เช่น การสูบบุหรี่จัด การดื่มแอลกอฮอล์ และการใช้สารเสพติด หรือการรับประทานอาหารมากเกินไป สัญญาณของความเครียดอาจไม่สามารถสังเกตเห็นได้อย่างง่ายดาย
ความเครียดทางอารมณ์ - คุณไม่สามารถควบคุมอารมณ์ของคุณได้ใช่หรือไม่
เราต้องพบเจอกัยอารมณ์ต่าง ๆ มากมายในชีวิตในฐานะที่เราเป็นมนุษย์ ความรู้สึกสุข เศร้า โกรธ หงุดหงิด และกังวล เป็นส่วนหนึ่งในอารมณ์ของเรา แต่เมื่อคุณมีความเครียด มันจะทำให้คุณประสบกับความเครียดทางอารมณ์ แต่อารมณ์เหล่านี้จะดีขึ้น ความเครียดทางอารมณ์อาจรบกวนความสามารถของคุณในการทำสิ่งต่าง ๆ และทำสิ่งต่าง ๆ ให้เสร็จสิ้น
การค้นหาสาเหตุของความเครียดทางอารมณ์ - กำลังเกิดอะไรขึ้นกับคุณ
ปกติแล้ว ความเครียดทางอารมณ์ หรือความเครียดอาจไม่มีใครสังเกตเห็นได้เนื่องจากอาการของมันอาจเกิดขึ้นพร้อมกับโรคต่าง ๆ นอกจากนี้ หลายครั้งผู้ที่มีความเครียดอาจ มองข้ามอาการต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น และกำลังคิดว่าตนเองจะมีอายุขัยสั้น และอาการเหล่านี้อาจกลับมาเป็นซ้ำ และส่งผลเสียต่อสุขภาพได้หากไม่มีการดูแล
การค้นหาสาเหตุของความเครียดทางอารมณ์อาจเป็นเรื่องที่ท้าทายสำหรับแพทย์ของคุณได้เช่นกัน คุณต้องพิจารณาว่าคุณรู้สึกอย่างไร หากบางครั้ง คุณพบว่าตัวเองกำลังโกรธ เศร้า หรือวิตกกังวล คุณต้องขอความช่วยเหลือ คุณสามารถจดบันทึกลงในสมุดเพื่อบันทึกว่าคุณมีอารมณ์แปรปรวนกี่ครั้งในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา
ตัวอย่างต่อไปนี้เป็นอาการของความเครียดทางอารมณ์ทั่ว ๆ ไปซึ่งคล้ายกับอาการเครียด และวิตกกังวล:
- รู้สึกหนักในหน้าอก
- หัวใจมีอัตราการเต้นเร็วขึ้น
- ปวดคอ ไหล่ และหลัง
- ปวดศีรษะ
- กัดฟันของคุณ
- หายใจถี่
- มีอาการเหนื่อยล้ามากเกินไป
- รู้สึกหดหู่
- มีปัญหาในการนอนหลับ
- ท้องเสีย หรือท้องผูก
อาการทางจิต หรือพฤติกรรมที่แปลกประหลาดของความเครียดทางอารมณ์ ได้แก่
- มีอารมณ์เศร้า เสียใจมากกว่าปกติ
- รู้สึกประหม่า
- หลงลืม
- มีปัญหาในการตัดสินใจ หรือในการแก้ปัญหา
- การดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณมาก หรือดื่มต่อเนื่อง
10 วิธีเพื่อจัดการกับความเครียดทางอารมณ์
วิธีเพื่อจัดการกับความเครียดทางอารมณ์มีอยู่มีหลาย วิธีเหล่านี้คล้ายกับวิธีการที่ใช้ในการจัดการกับความเครียดของแต่ละคน
ต่อไปนี้เป็นวิธีเพื่อจัดการกับความเครียดทางอารมณ์ 10 วิธีซึ่งจะสามารถช่วยคุณขจัดความกังวลของคุณได้:
1. การเจริญสติ
การเจริญสติ คือ การเรียนรู้วิธีที่จะมุ่งความสนใจ และรับรู้ในสิ่งต่าง ๆ มากขึ้น คุณต้องฝึกฝนการเจริญสติในสภาพแวดล้อมที่เงียบสงบ สะดวกสบาย และอยู่ไกลจากสิ่งรบกวนต่าง ๆ คุณสามารถเรียนรู้ที่จะรู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงทางร่างกายที่เกิดขึ้นตามอารมณ์ที่เปลี่ยนไปของคุณ
การทำความเข้าใจเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างร่างกาย และจิตใจนี้เป็นขั้นตอนแรกในการควบคุมอารมณ์ของคุณ และเรียนรู้วิธีเพื่อจัดการกับความเครียดของคุณให้ดีขึ้นได้ การฝึกเจริญสติจะช่วยทำให้คุณเข้าใจได้ว่าอะไรที่ทำให้คุณรู้สึกเครียด และคุณจะรับมือกับความเครียดได้อย่างไร
2. ฝึกสมาธิ
หลายคนมักจะสับสนกับการทำสมาธิ และการเจริญสติ อย่างไรก็ตาม การเจริญสติทำให้คุณรู้ตัว และการทำสมาธิจะนำคุณไปสู่สภาวะจิตใจที่เย็นลง และสงบมากขึ้น
ทำสมาธิในสถานที่เงียบสงบ และลองฝึกหายใจเข้า-ออกเพื่อลดความเครียด เช่น การหายใจเข้าลึก ๆ คุณสามารถจัดการกับอารมณ์ และลดความเครียดทางอารมณ์ได้จากความคิดที่คุณเลือก เช่น ความคิดในเชิงบวก หรือความทรงจำที่อบอุ่น และทำให้คุณรู้สึกสบายใจ
3. อ่านหนังสือ
ไม่มีอะไรจะดีไปกว่าเวลาที่ 'ฉัน' รู้สึกผ่อนคลาย และสงบสุข บนโลกที่หมุนไปอย่างรวดเร็วใบนี้ เรามักจะพลาดช่วงเวลาแห่งความสงบสุขไป และการอ่านก็อาจเป็นการเริ่มต้นที่เหมาะสมที่สุด
การอ่านหนังสือเป็นการกระตุ้นความคิดของเราได้อย่างเต็มที่ และจุดประกายให้เกิดจินตนาการ เนื่องจากสมองกำลังจดจ่ออยู่กับงานเพียงอย่างเดียวจึงช่วยลดความเครียด และส่งเสริมให้เกิดการผ่อนคลาย คุณอ่านหนังสือเล่มโปรดครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่ ไปหยิบหนังสือเล่มนั้นสิ!
4. ออกไปเดินเล่น
การเดินช่วยให้คุณหลีกหนีจากเหตุการณ์ตึงเครียดไม่เพียงแค่ทางร่างกายเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงจิตใจด้วย การเดินช่วยให้คุณคิด และประเมินตัวเองได้ หรือคุณอาจจะมีเพื่อนออกไปเดินเล่นกับคุณด้วยก็ได้เพื่อทำให้คุณรู้สึกเพลิดเพลิน
การเดินช่วยปลดปล่อยสารเคมีในสมองที่เรียกว่าเอ็นโดรฟินซึ่งเป็นสารช่วยกระตุ้นการผ่อนคลาย และทำให้อารมณ์ดีขึ้น
5. การออกกำลัง
คุณสามารถออกกำลังกายรูปแบบใดก็ได้ที่ดีต่อการคลายความเครียดของคุณ การออกกำลังกายทำให้สุขภาพโดยรวมของขึ้นดีขึ้น และทำให้คุณรู้สึกว่ามีความเป็นอยู่ของคุณดีขึ้น เมื่อร่างกายของคุณมีการเคลื่อนไหว สมองจะหลั่งสารเอ็นโดรฟินที่ทำให้คุณ รู้สึกดี และผ่อนคลายมันช่วยกำจัดความคิดในเชิงลบ และช่วยให้คุณมีสมาธิกับการออกกำลังกายที่คุณกำลังทำอยู่
การออกกำลังกายเป็นประจำสามารถช่วยเพิ่มความมั่นใจในตนเอง ทำให้อารมณ์ดีขึ้น ช่วยทำให้คุณรู้สึกผ่อนคลาย และลดอาการซึมเศร้า และความวิตกกังวลได้เล็กน้อย การออกกำลังกายยังสามารถช่วยทำให้ปัญหาการนอนหลับซึ่งมักเกิดขึ้นจากความเครียดดีขึ้นได้
6. เต้นรำในสไตล์ของคุณ
การเต้นรำเป็นศิลปะแขนงหนึ่งที่ช่วยให้คุณสามารถ แสดงอารมณ์ออกมาได้ เมื่อคนเราเต้นรำ สมอง ร่างกาย และจิตใจทำงานประสานกันอย่างสมบูรณ์ระหว่างดนตรี และการเคลื่อนไหว
การเต้นรำกับเพลงโปรด และเพลิดเพลินไปกับเพลงจะช่วยทำให้แต่ละคนมีสมาธิจดจ่อกับช่วงเวลาที่พวกเขากำลังเต้นรำอยู่ สิ่งนี้ช่วยในการควบคุมการปลดปล่อยฮอร์โมนคอร์ติซอลจากสมองซึ่งช่วยลดความเครียด และระดับความตึงเครียดได้
7. ฝึกโยคะ
โยคะเป็นการฝึกฝนร่างกาย และจิตใจด้วยการผสมผสานท่าทางของร่างกาย การควบคุมการหายใจ และการทำสมาธิ หรือการผ่อนคลายเข้าด้วยกัน โยคะ สามารถช่วยลดความเครียดลดความดันโลหิต และลดอัตราการเต้นของหัวใจได้
หะฐะโยคะสามารถเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับการจัดการความเครียดได้โดยเฉพาะ หะฐะเป็นรูปแบบหนึ่งของโยคะที่พบได้บ่อยที่สุด และผู้เริ่มต้นอาจชอบจังหวะที่ช้าลง และการเคลื่อนไหวที่ง่ายมากกว่า โยคะสามารถทำให้คุณอารมณ์ดี และเพิ่มความรู้สึกของการเป็นอยู่ที่ดีโดยรวมของคุณได้
8. ฟังเพลง
เพลงที่มีจังหวะสนุกสนานสามารถทำให้คุณรู้สึกมีพลัง และคิดเกี่ยวกับชีวิตในเชิงบวกได้มากขึ้น ท่วงทำนองที่ช้าลงจะทำให้จิตใจของคุณสงบ และผ่อนคลายกล้ามเนื้อซึ่งทำให้คุณรู้สึกผ่อนคลายในขณะเดียวกันก็คลายความเครียดในแต่ละวันของคุณได้
9. เพลิดเพลินไปกับการอาบน้ำที่ผ่อนคลาย
ความเครียดทำให้กล้ามเนื้อของร่างกายหดตัว การอาบน้ำอุ่นเพื่อผ่อนคลายสามารถช่วยคุณได้ ผิวของเราจะหลั่งสารเอ็นดอร์ฟินออกมาเพื่อตอบสนองต่อน้ำอุ่น
การยืดกล้ามเนื้อ และการเคลื่อนไหวในน้ำยังเป็นการออกกำลังกายที่มีแรงกระแทกบนกล้ามเนื้อ ข้อต่อ และกระดูกต่ำอีกด้วย ศูนย์สุขภาพหลายแห่งในไนจีเรียให้บริการอาบน้ำเพื่อสร้างการผ่อนคลาย
10. จุดเทียนหอม
เทียนหอมถูกนำมาใช้ในพิธีกรรมต่าง ๆ มานานหลายศตวรรษเนื่องจากมันช่วยส่งเสริมการบำบัด เพิ่มสมาธิ และชำระล้างพลัง
คุณภาพของแสงที่อ่อนโยน และน่าหลงใหลทำให้เป็นตัวช่วยที่เหมาะสมที่สุดสำหรับกิจวัตรในการพักผ่อน กลิ่นของเทียนหอมเหล่านี้จะช่วยกระตุ้นสมองของเราให้คลายความเครียด และทำให้จิตใจแจ่มใสขึ้น
สรุป
ความเครียดไม่ใช่เรื่องใหม่สำหรับเราโดยเฉพาะในปัจจุบันนี้ และความเครียดอาจส่งผลต่ออารมณ์ของเรา และทำให้เกิดความเครียดทางอารมณ์ได้ ความเครียดทางอารมณ์อาจทำให้คุณไม่มีสมาธิ และจัดการงานง่าย ๆ ประจำวันทำได้ยากขึ้น นอกจากนี้ ความเครียดยังสามารถทำให้คุณกลายเป็นคนขี้ลืมได้อีกด้วย อย่างไรก็ตาม คุณสามารถปฏิบัติตามขั้นตอนเพื่อจัดการกับความเครียดทางอารมณ์นี้ได้
ขั้นตอนเหล่านี้คล้ายกันกับขั้นตอนในการจัดการกับความเครียดทุกประเภท คุณต้องมีความอดทน และเริ่มปฏิบัติตามการเปลี่ยนแปลงบางอย่างในกิจวัตรประจำวันของคุณ การจดบันทึกอาการของคุณ และพูดคุยกับแพทย์เพื่อปลดปล่อยมากขึ้นเป็นวิธีที่ดี
ในทางกลับกัน คุณสามารถเริ่มฝึกทำสิ่งต่าง ๆ ได้ เช่น การทำสมาธิ การเจริญสติ อ่านหนังสือ ฟังเพลง และออกกำลังกายเพื่อให้คุณเริ่มมองเห็นการเปลี่ยนแปลงของการตอบสนองต่อความเครียดทางอารมณ์ของคุณ
โปรดทำจิตใจให้มีความเข้มแข็งเพื่อให้ก้าวผ่านความเครียดทางอารมณ์ไปได้